การเดินทางไปขั้วโลกใต้ (Antarctic) เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและน่าตื่นเต้นในทุกมิติ ทั้งความหนาวสุดขั้ว สภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง และสัตว์ที่น่าทึ่ง แอนตาร์กติกายังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่หลายคนใฝ่ฝันถึง การเดินทางไปยังขั้วโลกใต้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การท่องเที่ยว แต่ยังเป็นการเข้าถึงพื้นที่ที่มีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมอย่างลึกซึ้ง
เมื่อไปถึงขั้วโลกใต้ นักเดินทางสามารถสัมผัสความงดงามของธารน้ำแข็งและภูมิประเทศที่โดดเด่นได้ แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่หนาวที่สุดและลมแรงที่สุดในโลก การสำรวจสัตว์ป่าในที่นี่จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นการเฝ้าดูเพนกวินเล่นน้ำ แมวน้ำลอยตัวบนก้อนน้ำแข็ง หรือแม้แต่การชมการเคลื่อนไหวของสาหร่ายและแบคทีเรียที่ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย
สถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไปเยือนคือสถานีวิจัยขั้วโลกใต้ของสหรัฐอเมริกา อะมุนด์เซน–สกอตต์ (Amundsen–Scott South Pole Station) สถานีนี้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งนักวิจัยหลายคนเดินทางมาสำรวจสิ่งมีชีวิตพื้นเมืองและทำการศึกษาต่างๆ ที่เกี่ยวกับภูมิศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และชีวิตในพื้นที่ที่ห่างไกลจากโลกภายนอก
การเดินทางไปยังขั้วโลกใต้ยังถือเป็นการพิชิตสถานที่ท่องเที่ยวที่เอ็กซ์ตรีมมากที่สุดในโลก เพราะการเดินทางมักจะต้องใช้เวลาหลายวันผ่านทะเลที่ท้าทายและต้องพึ่งพาอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อความปลอดภัย ถ้าคุณเป็นคนที่หลงใหลในการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร การเดินทางไปยังขั้วโลกใต้จะเป็นอีกหนึ่งในฝันที่เป็นจริง
เที่ยวเล่นใกล้ชิดกับเพนกวิน หลายๆ พันธุ์
การชมเพนกวินจักรพรรดิในแอนตาร์กติกเป็นประสบการณ์ที่พิเศษมาก เพนกวินจักรพรรดิถือเป็นสายพันธุ์ที่สง่างามที่สุด พวกมันอาศัยอยู่ในพื้นที่หนาวสุดขั้วของโลก การเดินทางไปยังทะเลเวดเดลล์ (Weddell Sea) และเกาะสโนว์ฮิลล์ (Snow Hill Island) เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางที่จะนำคุณไปสู่ชุมชนเพนกวินขนาดมหึมา ความสนุกในการชมพวกมันอยู่ที่การเฝ้าดูพฤติกรรมในธรรมชาติ การเดินเล่นท่ามกลางหิมะ และอาจได้เห็นลูกเพนกวินตัวน้อยที่น่ารักท่ามกลางธรรมชาติที่น่าทึ่ง
การโดยสารเฮลิคอปเตอร์ไปยังเกาะสโนว์ฮิลล์จะทำให้คุณได้สัมผัสมุมมองที่สวยงามของภูมิประเทศที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง พอลงจากเฮลิคอปเตอร์ คุณจะได้ใช้เวลาใกล้ชิดกับเหล่าเพนกวินอย่างเต็มที่ ความเป็นธรรมชาติและการต้อนรับที่อบอุ่นของพวกมันจะสร้างความประทับใจที่ไม่รู้ลืม
เที่ยวนั่งเรือ Zodiac ดูภูเขาน้ำแข็ง ปลาวาฬ สิงโตทะเล และแมวน้ำ
การทัวร์เรือโซดิแอคในแอนตาร์กติกานับว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและห้ามพลาดจริงๆ! การล่องเรือยางลอยน้ำไปท่ามกลางภูเขาน้ำแข็งที่สง่างาม ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องลองเมื่อมาเยือนขั้วโลกใต้ เรือโซดิแอคที่บรรจุคนได้ราว 12-16 คน ถูกออกแบบมาอย่างดีสำหรับการใช้งานในสภาพอากาศสุดขั้ว มีความปลอดภัยและเสถียรภาพสูง ทำให้เราสามารถเข้าไปใกล้ชิดกับธรรมชาติและสัตว์น่ารักๆ อย่างปลาวาฬหรือแมวน้ำได้อย่างปลอดภัย ระหว่างการเดินทาง คุณจะได้เห็นภูเขาน้ำแข็งในรูปร่างที่แปลกตาและงดงาม รวมถึงแมวน้ำเสือดาวที่บางครั้งก็จะว่ายน้ำเข้ามาทักทายอย่างใกล้ชิด แม้ว่ามันจะดูน่ารัก แต่ก็ต้องระวังน้องเขาด้วยนะคะ อย่าลืมว่าพวกมันเป็นสัตว์ป่า! บรรยากาศรอบตัวในระหว่างทัวร์จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดไปในโลกของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลายและความตื่นเต้นที่จะทำให้การเยือนขั้วโลกใต้นี้เป็นความทรงจำที่ไม่ลืม
เที่ยวพายเรือคายัค ส่องสัตว์ต่างๆ ปลาวาฬ นก
การได้เข้าใกล้ สัมผัสกับธรรมชาติ และมนต์เสน่ห์แห่งขั้วโลกใต้ด้วยตัวเอง คงเป็นความฝันของนักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์หลายๆ คนคาดหวังไว้ การพายเรือคายัคนั้นจะมีไกด์พายนำเราไปในจุดต่างๆ ที่เข้าถึงได้มากที่สุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และระดับน้ำด้วยนะคะว่าจะสามารถเข้าถึงจุดต่างๆ หรือลัดเลาะเข้าไปถึงได้มากแค่ไหน
นอกจากการพายเรือล่องผ่านภูเขาน้ำแข็งที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว เราอาจจะได้เจอกับเพนกวิน แมวน้ำ หรืออาจจะเป็นวาฬ ที่มาว่ายน้ำเล่นอยู่รอบตัวเรา! แค่คิดก็ตื่นเต้นสุดๆ แล้วค่าาาา >,< อยากจะไปซ้อมพายเรือ ฟิตร่างกายไปปะทะความหนาว แพ็คกระเป๋ามันซะตอนนี้เล้ย!
สำหรับใครที่สนใจการพายเรือคายัคนั้นสามารถดูทัวร์ของ Quark Expeditions ถือว่าหนึ่งทัวร์ที่เสนอทริป และบริการที่ดีให้กับประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวแนะนำมากที่สุดด้วยค่ะ ราคาทัวร์ชายฝั่ง Shore Excursion อยู่ที่ 995 ดอลล่าร์ หรือ ประมาณ 31,300 บาท เป็นราคาที่สูงพอตัว แต่ว่าคุ้มค่าสำหรับครั้งหนึ่งในชีวิตแน่นอนค่ะ
เที่ยวโพล่าพลั้นจ์และว่ายน้ำในอุณหภูมิติดลบ
กิจกรรมท้าทายสำหรับนักท่องเที่ยวสุดโต่ง ท้าแรงปะทะ อีกทางเลือกสำหรับเหล่าคนใจกล้า บ้าบิ่น ที่คิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ จะลองก็ไม่เสียหาย ต้องยกให้กิจกรรม โพล่าพลั้นจ์ (Polar Plunge) การกระโดดน้ำลงที่มหาสมุทรที่ความเย็นติดลบสูงที่สุดในโลกที่แอนตาร์กติกาแห่งนี้นั่นเอง!
มันเป็นกิจกรรมที่นอกจากจะวัดใจแล้ว ยังเสี่ยงกับสุขภาพร่างกายของเรามากด้วยนะคะ หญิงปุ๊กขอแนะนำว่า สำหรับใครที่ใจสู้แต่ร่างกายไม่ไหว อย่าเสี่ยงค่ะ…เก็บแต้มบุญชีวิตไว้ไปเที่ยวรอบโลกกันต่อด้วยกันดีกว่านะคะ แต่ใครที่ฟิตร่างกายมาเพื่อการนี้ละก็…จัดไปอย่าให้เสียค่ะ! โดดเล๊ย! เราจะยืนให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ จนกว่าคุณจะได้ขึ้นมาแน่นอนค่ะ 55555 ไม่ต้องห่วงนะคะ กองซัพพอร์ตเพียบ ^0^
แน่นอนว่าท้าทายชีวิตขนาดนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะกระโดดเอาสนุกอย่างเดียวนะจ๊ะ สำหรับเหล่าผู้กล้าทั้งหลายที่เมื่อกระโดดดิ่งสู่ผืนน้ำอุณหภูมิติดลบนี้เสร็จแล้ว กลับขึ้นมาอย่างปลอดภัย คุณจะได้ประกาศนียบัตรรับรองว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตคุณได้ทำการโพล่าพลั้นจ์สำเร็จ! ใส่กรอบติดฝาบ้านเลยนะเจ้าคะ นายเจ๋งมาก ยกนิ้วให้เลยคร้าบ
เที่ยวท่าเรือล็อกรอย ส่งไปรษณีย์จากที่ทำการที่อยู่ใต้สุดของโลก
ที่ทำการไปรษณีย์เพนกวินที่ Port Lockroy นั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์และความน่ารักแบบไม่เหมือนใคร เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นฐานทัพเรือของสหราชอาณาจักร และปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่แสนพิเศษสำหรับผู้มาเยือนแอนตาร์กติกา ไม่เพียงแต่จะได้ส่งโปสการ์ดจากจุดที่ห่างไกลที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แต่ยังมีเพื่อนร่วมทางที่เป็นเพนกวินเจนทูจำนวนมากที่พร้อมจะต้อนรับคุณด้วยเสียง “roo roo roo” ที่น่ารักเป็นพิเศษ
เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ที่ทำการไปรษณีย์แห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสถึงการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และธรรมชาติ พร้อมกับวิวที่เต็มไปด้วยเพนกวินตัวน้อยที่เดินเตาะแตะไปมา สร้างความประทับใจและอบอุ่นใจให้กับทุกคนที่ได้มาเยือน
เจ้าหมีน้ำ หรือ “ทาร์ดิเกรด” นั้นเป็นสัตว์ไมโครขนาดจิ๋วที่ชื่ออาจฟังดูเหมือนหมี แต่จริงๆ แล้วหน้าตาของมันออกจะเหมือนสิ่งมีชีวิตจากภาพยนตร์ไซไฟมากกว่า! ทาร์ดิเกรดมีร่างกายอ้วนกลม ขาสั้นๆ แปดขา และใบหน้าที่แปลกตา มันไม่ได้ดูเหมือนหมีในแง่ของรูปลักษณ์ แต่มีความทนทานในระดับที่เหลือเชื่อ สามารถอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่แสนจะสุดขั้ว ไม่ว่าจะเป็นความร้อน ความเย็นจัด หรือแม้แต่การขาดน้ำเป็นเวลานาน ซึ่งทำให้พวกมันเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ทรหดที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าหน้าตาจะไม่น่ารักแบบหมี แต่ทาร์ดิเกรดก็เป็นสัตว์ที่น่าสนใจสุดๆ ด้วยความสามารถในการปรับตัวและเอาตัวรอดในสภาพแวดล้อมที่สุดแสนจะรุนแรง
แพลนท่องเที่ยว และกิจกรรมแน่นขนาดนี้หลายๆ คนคงหยิบปฏิทินขึ้นมาหาวันลาอยู่พักร้อนยาวๆ ไปท้าหนาวกันแล้วใช่ไหมเอ่ย…สำหรับทริปขั้วโลกใต้ หญิงปุ๊กมีคำแนะนำสำหรับก่อนจะจองตั๋วเดินทางมาให้ทุกคนด้วยจ้า
When to go…ไปเมื่อไหร่?
สำหรับการเที่ยวขั้วโลกใต้ ควรไปในช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม เพราะเป็นฤดูร้อนของแอนตาร์กติกา อุณหภูมิจะไม่รุนแรงเกินไป และเหมาะสำหรับการเดินทาง
How to go…ไปอย่างไร?
การเดินทางมีสองวิธีหลัก ๆ คือ บินจากไทยไปอาร์เจนตินา แล้วต่อไปยัง Ushuaia ใช้เวลาประมาณ 30 ชั่วโมง หรือล่องเรือสำราญผ่าน Drake Passage ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10-24 วัน แต่ต้องเตรียมตัวรับมือกับคลื่นลมแรง
Which Cruise to go…เรือสำราญแบบไหนดี?
สำหรับเรือสำราญ แนะนำเรือขนาดเล็กแบบ Expedition ที่จะพาคุณเข้าใกล้ธรรมชาติและสัตว์ป่าได้มากกว่าเรือใหญ่
