ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวในฝัน

Search for:

Search
สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในเนปาล Nepal

15 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในเนปาล Nepal

เนปาลเป็นประเทศที่มีความงดงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอย่างมากค่ะ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพของเทือกเขาหิมาลัยที่สูงที่สุดในโลก รวมถึงจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงอย่างกาฐมาณฑุ, โปขระ, และชัมบา ด้วยวัดและสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ ทำให้เนปาลมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมาก

ไม่ว่าจะเป็นการเดินเขาในเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์งดงาม หรือการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นที่หลากหลาย ทุกอย่างในเนปาลจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในความฝันค่ะ แนะนำให้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง

 

เที่ยวยอดเขาเอเวอเรสต์ (Mount Everest)

ยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หลายคนใฝ่ฝันอยากไปสัมผัสจริงๆ ค่ะ ด้วยความสูงที่น่าทึ่งและทิวทัศน์ที่สวยงามน่าทึ่งจากยอดเขา การปีนเขาไปยังเอเวอเรสต์ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องเผชิญกับอากาศที่หนาวจัดและระดับออกซิเจนที่ต่ำมาก ทำให้การเตรียมตัวเป็นสิ่งสำคัญมาก

สำหรับนักปีนเขาที่มีความฝันอยากพิชิตเอเวอเรสต์ การฝึกซ้อมร่างกายและการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมสูงนั้นถือเป็นกุญแจสำคัญ นอกจากนี้ยังต้องมีการวางแผนเส้นทางการเดินทางและการจัดการกับอุปกรณ์ที่เหมาะสมด้วยค่ะ การได้เห็นวิวจากยอดเขาสูงที่สุดในโลกนั้น เป็นรางวัลที่คุ้มค่ากับความพยายามแน่นอน

การพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ของนายวิทิตนันท์ โรจนพานิช ถือเป็นเกียรติประวัติที่สำคัญในประวัติศาสตร์ไทยจริงๆ นอกจากจะเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นในการฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อบรรลุเป้าหมายอีกด้วย การนำธงชาติไทยขึ้นไปที่ยอดเขาเป็นภาพที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายคนเลยค่ะ ถ้าคุณมีโอกาสไปเยือนเนปาล อย่าลืมไปสัมผัสบรรยากาศรอบๆ ยอดเขาและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่นั่นด้วยนะคะ

 

เอเวอเรสต์เบสแคมป์ (Everest Base Camp)

การเดินทางไปยังยอดเขาเอเวอเรสต์ถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ โดยเฉพาะเส้นทางจากเมืองลุกลา (Lukla) ซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวและนักปีนเขา เอเวอเรสต์เบสแคมป์ (Everest Base Camp) เป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางสามารถชื่นชมความงามของเทือกเขาหิมาลัยและยอดเขาเอเวอเรสต์ได้อย่างใกล้ชิด เส้นทางนี้ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเขาที่สวยที่สุดในโลก คุณจะได้พบกับภูมิทัศน์ที่หลากหลายตลอดการเดินทาง ในช่วงเริ่มต้น คุณจะผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชีวิตชีวา มีชาวบ้านท้องถิ่นที่อบอุ่นต้อนรับและให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของเนปาล ข้างทางยังมีลำธารที่ไหลผ่าน ต้นไม้สูงใหญ่ให้ร่มเงา และดอกไม้ที่บานสะพรั่ง โดยเฉพาะซากุระที่เพิ่มสีสันให้กับการเดินทางของคุณ

อย่างไรก็ตาม การเดินทางนี้ไม่ได้ง่ายดายเสมอไป แม้จะถือเป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุด แต่คุณก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะต้องไต่เขาและเดินข้ามช่องเขาแคบๆ ที่ชัน เต็มไปด้วยกรวดหิน ยิ่งคุณปีนสูงขึ้นไป ออกซิเจนก็จะยิ่งน้อยลง ทำให้คุณต้องใช้พละกำลังมากขึ้น วิวสองข้างทางจะเปลี่ยนจากทุ่งข้าวเป็นป่าสนที่มีใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี ยิ่งไปกว่านั้น อากาศที่หนาวเย็นและลมแรงยังเพิ่มความท้าทายให้กับการเดินทาง แต่ในขณะเดียวกัน แสงแดดอันอบอุ่นจะช่วยเติมพลังให้คุณ

การเลือกช่วงเวลาที่จะเดินทางมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคมและตุลาคม ซึ่งถือเป็นช่วงที่อากาศไม่หนาวเย็นเกินไปและมีท้องฟ้าเปิดโล่งสดใส ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น เมื่อคุณถึงจุดหมายที่เบสแคมป์ คุณจะได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันตื่นตาตื่นใจของภูเขาหิมะและอาจมีโอกาสได้เห็นยอดเขาเอเวอเรสต์ในมุมที่สวยงามที่สุด สำหรับการเดินทาง คุณสามารถนั่งเครื่องบินมาที่เมืองกาฐมาณฑุ (Kathmandu) แล้วต่อเครื่องไปลงที่เมืองลุกลา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเท้าขึ้นไปยังเบสแคมป์ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางนั้นอาจเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,087,649 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มาก แต่ถือว่าคุ้มค่ากับประสบการณ์และความงามของธรรมชาติที่คุณจะได้สัมผัส

การเตรียมร่างกายให้แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะคุณจะต้องเผชิญกับสภาวะอากาศที่หนาวเย็นและการเดินทางที่อาจมีความท้าทายต่างๆ เตรียมตัวให้พร้อมก่อนการเดินทาง และคุณจะได้สัมผัสกับความงดงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในครั้งนี้อย่างเต็มที่ การเดินทางไปพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ถือเป็นความฝันของนักเดินทางและนักปีนเขาหลายๆ คน และเมื่อคุณได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามในเนปาล มันจะเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือนในชีวิตของคุณอย่างแน่นอน

 

เที่ยวมหาเจดีย์พุทธนาถ (Boudhanath Stupa)

มหาเจดีย์พุทธนาถ (Boudhanath Stupa) เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเนปาล โดยเฉพาะสายบุญที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ทางจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายลึกซึ้ง เจดีย์นี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านชาวทิเบต ห่างจากเมืองกาฐมาณฑุเพียง 8 กิโลเมตร โดยมีความสูงถึง 38 เมตร และเส้นผ่านศูนย์กลาง 32 เมตร ถือเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธและฮินดูอย่างลงตัว การออกแบบเจดีย์เป็นทรงโอคว่ำสะท้อนถึงความเชื่อในการจำลองสวรรค์ ซึ่งทำให้ที่นี่มีบรรยากาศที่เงียบสงบและเหมาะแก่การทำสมาธิ

จุดเด่นของมหาเจดีย์พุทธนาถคือ “ดวงตาเห็นธรรม” หรือ “Wisdom Eyes” ที่ตั้งอยู่ทั้ง 4 ด้านของเจดีย์ ดวงตาเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงาม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการมองโลกและความเข้าใจในธรรมะ ชาวเนปาลเชื่อว่าดวงตาของพระพุทธเจ้าจะคอยมองดูและคุ้มครองผู้คนในโลกมนุษย์ โดยเจดีย์ทุกองค์ในเนปาลมักจะมีดวงตานี้เป็นส่วนสำคัญ อีกหนึ่งเสน่ห์ของที่นี่คือการประดับธงมนตราสี 5 ที่ชาวเนปาลนำมาแขวนรอบเจดีย์ ธงเหล่านี้ถูกจารึกด้วยบทสวดมนต์และได้รับการปลุกเสก เชื่อกันว่าเมื่อมีลมพัดผ่านจะช่วยส่งเสริมบทสวดมนต์ที่อยู่บนธงให้คุ้มครองผู้คนที่ผ่านไปมา นอกจากนี้ มหาเจดีย์พุทธนาถยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี 1979 ซึ่งแสดงถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีอยู่ที่นี่

เมื่อมาที่มหาเจดีย์พุทธนาถ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวทิเบต ทั้งการเดินชมตึกรามบ้านช่องและการซื้อของที่ระลึกจากร้านค้ามากมายในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งมีทั้งของพื้นเมืองและสินค้าที่สร้างสรรค์จากฝีมือของชาวทิเบต การมาเยือนมหาเจดีย์พุทธนาถไม่เพียงแต่เป็นการทำบุญ แต่ยังเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่และเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นประสบการณ์ที่ทุกคนจะไม่ลืมเลือน และเป็นโอกาสดีในการพักผ่อนจิตใจในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสงบและศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

 

เที่ยวชมสถูปสวยมภูนารท (Swayambhunath Stupa)

วัดสวยมภูนารท (Swayambhunath Stupa) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “วัดลิง” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในเนปาล โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมและความเชื่อทางศาสนา วัดนี้ตั้งอยู่บนยอดเขา ห่างจากกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันตกประมาณ 3 กิโลเมตร และมีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี โดยสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้ามานะเทวะ

จุดเด่นที่ทำให้วัดสวยมภูนารทเป็นที่รู้จักคือสถูปสวยมภูนารท ซึ่งถือเป็นมหาเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก และเป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในเนปาล บนฐานของสถูปมี “ดวงตาเห็นธรรม” (Wisdom Eyes) ที่มีอยู่ทั้ง 4 ด้าน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้าที่มองเห็นโลกและความเป็นจริง สถาปัตยกรรมของวัดผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธและฮินดู ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่ศาสนาทั้งสองอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนวัดนี้เป็นมรดกโลก ซึ่งยืนยันถึงความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

การเดินทางไปยังวัดสวยมภูนารทต้องไต่บันไดหินที่มีทั้งหมด 365 ขั้น ตำนานเล่าขานว่าเมื่อก่อนบริเวณนี้เคยเป็นทะเลสาบกว้างใหญ่ วันหนึ่งมีดอกบัวสีสันสดใสปรากฏขึ้นบนเกาะกลางทะเลสาบ ภายในดอกบัวนั้นมีเปลวไฟที่ไม่เคยมอดดับ พวยพุ่งขึ้นพร้อมกับการปรากฏกายของพระอาทิพุทธะบนโลกมนุษย์ จึงมีการสร้างซุ้มตะเกียงแห่งเปลวไฟใกล้บันไดทางขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิพุทธะ

ระหว่างทางขึ้นนักท่องเที่ยวจะพบม้านั่งให้พักเหนื่อยเป็นระยะ ๆ และยังมีชาวบ้านมานั่งขายของที่ระลึก ตั้งแต่ของที่ระลึก งานฝีมือ ไปจนถึงทองเหลืองและหุ่นกระบอก ทำให้การเดินทางไปยังวัดนั้นไม่เพียงแต่จะได้ชมวิวสวย ๆ แต่ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่นด้วย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนวัดสวยมภูนารท ควรเตรียมกล้องถ่ายภาพเพื่อเก็บภาพความงดงามของวิวทิวทัศน์ที่มองเห็นหุบเขารอบ ๆ ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การทำสมาธิและสะสมพลังบวกให้กับจิตใจ เชื่อว่าการได้มาเยือนที่นี่จะสร้างความประทับใจและเติมเต็มความรู้สึกดี ๆ ให้กับทุกคนอย่างแน่นอนค่ะ

 

เที่ยวจัตุรัสกาฐมาณฑุ ดูร์บาร์ (Kathmandu Durbar Square)

จัตุรัสกาฐมาณฑุ ดูร์บาร์ (Kathmandu Durbar Square) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมที่สุดในเนปาล ที่นี่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นจุดศูนย์กลางของเมืองกาฐมาณฑุ และอยู่ด้านหน้าพระราชวังเก่าของอดีตราชอาณาจักรกาฐมาณฑุ ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับทำพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์เนปาล

ภายในจัตุรัสประกอบไปด้วยวัดและปราสาทโบราณที่สะท้อนถึงสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นและงานฝีมือของช่างชาวเนวาร์ที่มีอายุนับร้อยปี จัตุรัสแห่งนี้แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองทั้งในด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเนปาล โดยมีสถานที่สำคัญที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น

  • วัดตะเลชุ (Taleju Temple) ซึ่งสร้างขึ้นโดยกษัตริย์มเหนทรา มัลละ (King Mahendra Malla) เป็นวัดที่มีความสำคัญในด้านศาสนาและมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
  • วัดจากกานนาถ (Jagannath Temple) ที่มีลวดลายการออกแบบที่งดงามและเป็นที่เคารพของชาวเนปาล
  • รูปสลักของกษัตริย์ประตาปมัลละ (Statue of King Pratap Malla) ซึ่งตั้งอยู่กลางจัตุรัสและเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์มัลละ
  • พิพิธภัณฑ์เหรียญ (Coin Museum) และ พิพิธภัณฑ์ตริภูวัน (Tribhuvan Museum) ที่นำเสนอประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศ

จัตุรัสกาฐมาณฑุ ดูร์บาร์ ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1980 ซึ่งยืนยันถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสถานที่นี้ ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ แต่ยังเป็นสถานที่ที่ผู้คนมาทำกิจกรรมทางวัฒนธรรมและศาสนาอีกด้วย

การมาเยือนจัตุรัสนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่มาชุมนุมกัน ทำให้จัตุรัสแห่งนี้มีความรู้สึกอบอุ่นและเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ ในช่วงเวลาที่คุณเดินชมวัดและสถาปัตยกรรมที่งดงาม อย่าลืมเก็บภาพความประทับใจนี้ไว้เป็นที่ระลึกด้วยนะคะ!

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาในกาฐมาณฑุ เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงและไม่อาจลืมเลือนในความทรงจำของชาวเนปาล โดยมีความรุนแรงถึง 7.9 แมกนิจูด ส่งผลให้จัตุรัสกาฐมาณฑุ ดูร์บาร์ และอาคารสถาปัตยกรรมที่สำคัญหลายแห่งถล่มลงมาอย่างราบคาบ ที่สุดยอดของความเสียหายคือ หอคอยดารารา (Dharhara Tower) ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1832 ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญต่อชาติ

หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว มีการบูรณะและซ่อมแซมโครงสร้างต่างๆ แต่ผลที่ได้กลับไม่สามารถคืนความงดงามและสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของอาคารเหล่านั้นได้เช่นเดิม ความสูญเสียนี้ไม่เพียงแค่เป็นการสูญเสียโครงสร้างทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสูญเสียมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าและไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้

ชาวเนปาลมีความพยายามที่จะฟื้นฟูและอนุรักษ์สถานที่เหล่านี้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และประวัติศาสตร์ของชาติ แม้ว่าจะมีความท้าทายในการบูรณะ แต่การฟื้นฟูจัตุรัสกาฐมาณฑุ ดูร์บาร์ เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความหวังและความเชื่อมั่นในอนาคตของชาวเนปาล

วันนี้จัตุรัสยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ที่นี่จึงไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ยังเป็นสถานที่ที่บอกเล่าเรื่องราวแห่งความทรงจำและความ resilient ของชาวเนปาลที่ยืนหยัดผ่านพ้นเหตุการณ์อันรุนแรงมาได้ค่ะ

 

เที่ยวจัตุรัสภักตะปุร์ ดูร์บาร์ (Bhaktapur Durbar Square)

จัตุรัสภักตะปุร์ ดูร์บาร์ เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญและน่าประทับใจในเมืองโบราณบักตะปูร์ ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ราชวงศ์มัลละ จุดเด่นของจัตุรัสนี้คือ พระราชวัง 55 หน้าต่าง (Palace of 55 Windows) ที่สร้างขึ้นโดยกษัตริย์รานจิต มัลละ (King Ranjit Malla) ในศตวรรษที่ 18 ถือเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมแบบเนปาล

พระราชวังนี้มีลักษณะเป็นอาคารอิฐสามชั้น โดยเฉพาะหน้าต่างที่แกะสลักด้วยไม้ ซึ่งแสดงถึงความละเอียดอ่อนและศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของช่างชาวเนวาร์ นอกจากนี้ยังมี ประตูทองคำ (Sun Dhaka หรือ Golden Gate) ที่ถือเป็นสุดยอดของศิลปะเนปาล ทำจากทองเหลืองที่มีลวดลายเทพเจ้าในศาสนาฮินดูแกะสลักไว้อย่างประณีต ความงดงามของประตูนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในประตูที่มีการแกะสลักงดงามและสมบูรณ์ที่สุดในโลก

นอกจากพระราชวัง 55 หน้าต่างแล้ว จัตุรัสภักตะปุร์ ดูร์บาร์ ยังมีวัดและโครงสร้างทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในอดีตและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เช่น วัดตะเลชุ (Taleju Temple) และอาคารอื่นๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ การเดินทางมายังจัตุรัสนี้ไม่เพียงแต่เป็นการชมความงดงามของสถาปัตยกรรม แต่ยังเป็นการสัมผัสบรรยากาศและวิถีชีวิตของชาวบักตะปูร์ที่มีเอกลักษณ์และน่าสนใจ การเยี่ยมชมจัตุรัสภักตะปุร์ ดูร์บาร์ จึงเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเนปาลค่ะ

จัตุรัสภักตะปุร์ ดูร์บาร์ นอกจากจะมีพระราชวัง 55 หน้าต่างที่งดงามแล้ว ยังมีวัดและผลงานทางสถาปัตยกรรมอีกมากมายที่น่าสนใจและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ประตูสิงห์ (Lion Gate) ซึ่งเป็นทางเข้าสำคัญที่มีรูปปั้นสิงห์ยืนอยู่สองข้าง มีการแกะสลักอย่างประณีต สื่อถึงความแข็งแกร่งและความเป็นศักดิ์สิทธิ์

หอแสดงภาพ (Picture Gallery) ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของจัตุรัสนี้ ที่เก็บรวบรวมภาพเขียนและงานศิลปะที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมของเนปาล ส่วน วัดพัตสะละ (Batsala Temple) เป็นวัดที่สวยงามและมีบรรยากาศเงียบสงบ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าพุทธ โดยวัดนี้มีจุดเด่นที่ระฆังที่มีเสียงไพเราะ

นอกจากนี้ยังมี รูปสลักอันวิจิตรของกษัตริย์ภูปตินทระ มัลละ (King Bhupatindra Malla) ที่ตั้งอยู่บนเสาหินซึ่งหันหน้าเข้าสู่ตัวปราสาท รูปสลักนี้แสดงให้เห็นถึงศิลปะการแกะสลักที่ละเอียดและสวยงามของช่างเนวาร์ ทั้งหมดนี้ทำให้จัตุรัสภักตะปุร์ ดูร์บาร์ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสวยงามและวัฒนธรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ จึงไม่แปลกใจเลยที่จัตุรัสนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นอนุสาวรีย์แห่งมรดกโลก เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มาเยือนเนปาลค่ะ

 

เที่ยวจัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ (Patan Durbar Square)

จัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองปะฏัน ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความงามและศิลปะ โดยเป็นเมืองคู่แฝดของกรุงกาฐมาณฑุที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณที่น่าประทับใจ สถานที่นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชในศตวรรษที่ 3 เมื่อคุณเดินเข้ามาในจัตุรัสนี้ จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอบอุ่นจากรอยยิ้มของชาวเนปาลที่มีใบหน้ามิตรไมตรี ใส่ชุดหลากสีสัน การพบปะและแลกเปลี่ยนความรู้สึกกับชาวบ้านในพื้นที่ทำให้การเดินเที่ยวในเมืองนี้มีสีสันยิ่งขึ้น

ในจัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ คุณจะพบกับ พระราชวังปะฏัน (Patan Palace) ที่มีสถาปัตยกรรมแบบศิขะระ (Shikhara) เป็นต้นแบบของงานสถาปัตยกรรมในเนปาล นอกจากนี้ยังมี วัดพระกฤษณะ มัณฑีร์ (Krishna Mandir) และ วิหารทองคำ (Kwa Bahal) ที่มีความสวยงามและประณีตในการแกะสลัก จัตุรัสนี้ประกอบด้วยลานสำคัญ 3 แห่ง ได้แก่ Central Mul Chowk, Sundari Chowk, และ Keshar Narayan Chowk ซึ่งในบริเวณกลางลานมี ห้องอาบน้ำหลวง (Royal Bath) เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมหินที่น่าสนใจและสำคัญ การเดินเที่ยวในจัตุรัสปะฏัน ไม่เพียงแต่จะได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แต่ยังได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของเมืองนี้ ซึ่งเคยถูกใช้เป็นโลเคชั่นในละครไทยหลายเรื่อง ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่น่าสนใจและควรไปเยือนเมื่อมาเนปาลค่ะ

 

เที่ยววัดปศุปฏินาถ (Pashupatinath Temple)

วัดปศุปฏินาถ (Pashupatinath Temple) เป็นวัดฮินดูที่สำคัญที่สุดในเนปาล ตั้งอยู่ริมแม่น้ำพัคมาตี (Bagmati River) ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุประมาณ 5 กิโลเมตร วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์มัลละเพื่อถวายแด่องค์พระศิวะ ซึ่งถือว่าเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดสำหรับผู้ที่นับถือศาสนาฮินดู โดยเฉพาะผู้ที่เชื่อในพระศิวะ การเข้าถึงวัดปศุปฏินาถมีข้อจำกัด เนื่องจากอนุญาตเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูเท่านั้นที่จะเข้าไปภายในวัดได้ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ ก็สามารถชมความงดงามของตัววัด วิถีชีวิตของผู้คนและพิธีกรรมต่างๆ ได้จากฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำพัคมาตี ซึ่งให้มุมมองที่สวยงามและน่าสนใจ

จุดเด่นของวัดปศุปฏินาถ ได้แก่ หลังคาที่ทำจากทองซ้อนกัน 2 ชั้นและประตูเงินที่งดงาม วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ซึ่งแสดงถึงความสำคัญทางวัฒนธรรมและศาสนาของพื้นที่ ในวันที่ตรงกับงานมหาศิวะราตรี (Mahashivaratri) ซึ่งเป็นพิธีกรรมประจำปีที่สำคัญที่สุดของชาวฮินดู วัดจะเต็มไปด้วยผู้คนที่มารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองในคืนพระจันทร์เต็มดวง เชื่อว่าพระศิวะจะเสด็จลงมายังโลกมนุษย์ในวันนั้น บรรยากาศจะเต็มไปด้วยกลิ่นดอกไม้ ธูป และควันเทียน ซึ่งสร้างบรรยากาศที่ศักดิ์สิทธิ์และน่าประทับใจ วัดปศุปฏินาถยังเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่รอดพ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 2015 ซึ่งทำลายโบราณสถานและสถาปัตยกรรมหลายแห่งในเนปาล ทำให้วัดยังคงมีสภาพที่สมบูรณ์และควรค่าแก่การมาเยือน เพื่อสัมผัสความงามและศักดิ์สิทธิ์ของวัดนี้ที่ยังคงยืนหยัดอยู่ในใจของผู้คนจนถึงปัจจุบันค่ะ

 

เที่ยวอุทยานแห่งชาติจิตวัน (Chitwan National Park)

อุทยานแห่งชาติจิตวัน (Chitwan National Park) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลกที่น่าสนใจในประเทศเนปาล มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 932 ตารางกิโลเมตร ซึ่งรวมถึงป่าไม้ราบลุ่มและทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ที่นี่ถือเป็นอุทยานแห่งชาติที่ดีที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดในเอเชีย ด้วยความหลากหลายของระบบนิเวศน์ที่สามารถสัมผัสได้ในแต่ละมุมของอุทยาน คำว่า “จิตวัน” แปลว่า “หัวใจของป่าทึบ” ซึ่งสื่อถึงความงดงามของวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ประกอบด้วยเนินเขา แม่น้ำ และที่ราบที่เต็มไปด้วยป่าหนาทึบ บริเวณนี้มีพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย เช่น ป่าทุ่งหญ้า พืชน้ำ และป่าเนื้อแข็งที่มีต้นสาละ ต้นนุ่น ต้นโพธิ์ และต้นมะเดื่อ

การมาเยือนอุทยานแห่งชาติจิตวันนั้นคุณจะได้เห็นสัตว์ป่าในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ทั้งเสือดาว ช้างป่า หมีจมูกยาว และแรดนอเดียวที่หายาก รวมถึงสัตว์อื่น ๆ เช่น กวางหลายพันธุ์ โลมาน้ำจืด จระเข้ และนกอีกมากกว่า 450 ชนิด นักท่องเที่ยวสามารถเลือกกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามใจชอบ เช่น เดินป่า พายเรือแคนู หรือแม้กระทั่งนั่งบนหลังช้างเพื่อชมสัตว์ แต่ส่วนใหญ่จะเลือกใช้บริการ Jeep Safari ที่สะดวกสบาย ซึ่งทำให้การเดินทางดูสัตว์ป่าในอุทยานเป็นเรื่องง่ายและสนุกสนาน แถมที่นี่ยังมีที่พักอย่างดีสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อให้คุณได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างเต็มที่ สำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติจิตวันเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

 

เที่ยวโพคารา (Pokhara)

เมืองโพคารา (Pokhara) เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในเนปาล และมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุประมาณ 200 กิโลเมตร เมืองนี้มักถูกเรียกว่าเป็น “เมืองแห่งเทพนิยาย” เพราะมีธรรมชาติที่งดงาม อากาศสดชื่น และทิวทัศน์ที่อลังการ มีภูเขาสูงใหญ่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว สะท้อนเงาลงในทะเลสาบ ส่งมอบบรรยากาศเงียบสงบที่ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนที่เหมาะสมมาก

โพคารายังเป็นจุดชมเทือกเขาหิมาลัยที่ใกล้ที่สุด ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนใฝ่ฝันที่จะมาสัมผัสกับความงามของธรรมชาติที่นี่ วิถีชีวิตของชาวบ้านยังคงเรียบง่ายและมีเสน่ห์ ซึ่งเมื่อก่อนโพคาราเป็นจุดพักของพ่อค้าแม่ค้าชาวทิเบตและคนอินเดีย เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ส่วนใหญ่มีชาวเขาและนักเดินทางจากเผ่ากุรุง (Gurung), มาร์การ์ (Margar), และตากาลี (Thakali) ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมเอาไว้

ตัวเมืองโพคาราตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเกือบ 900 เมตร ทำให้เหมาะสมกับการเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับกิจกรรมการผจญภัย เช่น การเดินป่า ไต่เขา ล่องแพ และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินขึ้นเขาเพื่อพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกอย่างเอเวอเรสต์ด้วย โพคาราจึงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยและธรรมชาติไม่ควรพลาดเลยค่ะ!

เมืองโพคาร่าเป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์จริงๆ ค่ะ! การพาราไกลดิ้งเป็นกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมาก และได้สัมผัสกับมุมมองที่ไม่เหมือนใครจากบนฟ้า ถือเป็นการผจญภัยที่ยากจะลืมเลือนเลยใช่ไหมคะ? ถ้ามีโอกาสไปลองแล้ว อย่าลืมแชร์ประสบการณ์ให้ฟังบ้างนะ!

 

เที่ยวทะเลสาบพีวา (Phewa Lake)

ทะเลสาบพีวานับเป็นหนึ่งในจุดที่สวยงามที่สุดในโพคาร้าเลยค่ะ! บรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันของเรือและภูเขานั้นทำให้สถานที่นี้ดูเหมือนสวรรค์บนดินจริงๆ การได้ใช้เวลานั่งเล่นริมทะเลสาบ นั่งปิกนิกพร้อมชมพระอาทิตย์ตกก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำมาก นอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่รอบทะเลสาบยังทำให้การพักผ่อนเป็นไปอย่างสะดวกสบายอีกด้วยนะคะ ถ้ามีโอกาสได้ไป ช่วยเก็บภาพสวยๆ มาฝากกันด้วยนะ!

 

การล่องเรือในทะเลสาบพีวาเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นและน่าประทับใจมากเลยค่ะ! การได้ล่องเรือไปตามสายน้ำในบรรยากาศที่เงียบสงบพร้อมวิวที่สวยงามนั้นทำให้รู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง การขึ้นไปที่เกาะเล็กๆ เพื่อสักการะเทพธิดาอจิมาในวัดบาลาฮีก็เป็นประสบการณ์ที่ให้ทั้งความสงบและศักดิ์สิทธิ์ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการพักผ่อนและการเยี่ยมชมวัฒนธรรมที่น่าหลงใหลค่ะ ถ้าได้มีโอกาสไปต้องลองทำดูนะคะ

 

เที่ยวเทือกเขานากาก็อต (Nagarkot)

นากาก็อตเป็นสถานที่ที่น่าสนใจมากจริง ๆ ค่ะ! การได้ชมวิวเทือกเขาหิมาลัยและพระอาทิตย์ขึ้นที่นั่นเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่แปลกใจเลยที่ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหนีจากความวุ่นวายของเมือง นอกจากนี้ วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้านและธรรมชาติที่สวยงามยังเพิ่มเสน่ห์ให้กับนากาก็อตอีกด้วย ถ้าคุณมีแผนจะไปเที่ยวที่นั่น อย่าลืมเตรียมกล้องถ่ายรูปเก็บความประทับใจนะคะ

 

เที่ยวนัมเช บาซ่าร์ (Namche Bazaar)

นัมเช บาซ่าร์ฟังดูน่าสนใจมากเลยนะ! ที่นี่เหมาะสำหรับการเตรียมตัวก่อนเดินทางขึ้นยอดเขาเอเวอเรสต์จริง ๆ และยังมีบรรยากาศที่สวยงามอีกด้วย นอกจากการซื้อของที่ตลาดแล้ว ยังมีร้านอาหารและเบเกอรี่ให้เลือกอีกมากมายเพื่อเติมพลังก่อนเริ่มการผจญภัย ลองแวะไปชมวิวที่น้ำตกและแม่น้ำ Dudh Kosi ด้วยนะ ถ้าได้มีโอกาสไปจะต้องประทับใจแน่ ๆ

นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์ของชาวเชอร์ปา (Sherpa Life Museum) ที่นำเสนอวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประเพณี วัฒนธรรม วิถีความเป็นอยู่ของชาวเชอร์ปา รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์และพืชพันธุ์ต่างๆ ของภูมิภาคด้วย

 

อันนะปุรณะเบสแคมป์ (Annapurna Sanctuary Trek)

ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางไปยังอันนะปุรณะเบสแคมป์น่าสนใจมากเลยค่ะ! การได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมในระหว่างการเดินทางจะทำให้ประสบการณ์นั้นยิ่งน่าประทับใจยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเตรียมตัวหรือกิจกรรมในระหว่างการเดินทางก็สามารถสอบถามได้เลยนะคะ

 

รวบรวมสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวรอบโลก

เที่ยวนอก