ถ้าพูดถึงการล่องเรือสำราญที่ใหญ่โตสุดอลังการ เทียบได้กับยานอวกาศที่ล่องทะเล เราคงต้องลองขึ้นเรือสำราญขนาดมหึมากันสักครั้ง! บรรยากาศและความฟินบนเรือขนาดยักษ์นี้จะทำให้การล่องเรือธรรมดาไม่ค่อยมีความหมายเท่าไหร่ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกๆ มากมาย ชุดใหญ่จัดเต็มทั้งความสนุก ความบันเทิง และความมันส์ ที่สำคัญ การเดินทางแบบนี้คงไม่เหมาะกับการมาคนเดียวแน่นอน คุณต้องยกทั้งครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนมาร่วมสนุกและสร้างความทรงจำดีๆ ด้วยกัน เสียงหัวเราะและความสุขจะดังก้องทั่วทั้งเรือ เตรียมพร้อมสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจบนเรือสำราญยักษ์กันได้เลย!
วันนี้เรามีข้อมูลดีดีมาฝาก นั่นก็คือ 10 อันดับ เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยักษ์กว่านี้ก็ยานอวกาศแล้วจ้า เราลองไปดูกันเลยว่า ลำไหนโดนใจที่สุด! เริ่ม…
1. ล่องเรือสำราญ Symphony of the Seas สายเรือ Royal Caribbean International
Symphony of the Seas เป็นเรือสำราญขนาดยักษ์ที่สุดในโลกในปี 2018 ซึ่งอยู่ในตระกูล Oasis Class และเพิ่งเปิดตัวในเดือนเมษายน ด้วยขนาดมหึมาถึง 228,081 ตัน ใช้งบก่อสร้างกว่า 47,250 ล้านบาท! เรือสำราญนี้มีทั้งหมด 18 ชั้น พร้อมห้องพัก 2,759 ห้อง และ 22 ร้านอาหาร รวมถึง 24 สระว่ายน้ำ เรือยังแบ่งออกเป็น 7 โซนหลักเพื่อรองรับความบันเทิงและการพักผ่อน ได้แก่
- Royal Promenade: ศูนย์รวมร้านอาหารและความบันเทิง
- Broadwalk: มีม้าหมุนและ Aqua Theater สำหรับการแสดงระดับโลก
- Central Park: โซนสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพืชพรรณกว่า 20,000 ชนิด
- สระว่ายน้ำและสไลเดอร์: สำหรับการเล่นน้ำสุดสนุก
- สปาและฟิตเนส: พื้นที่ผ่อนคลายและออกกำลังกาย
- โซนความบันเทิง: ที่เต็มไปด้วยการแสดงและกิจกรรมสนุกๆ
- โซนเด็ก: สำหรับกิจกรรมและของเล่นสำหรับเด็กๆ
โอ้!… มาย!… ก๊อด!… อลังการที่สุ๊ดดด สุดยอดเรื่องกิจกรรม และสิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือที่จัดเต็มแบบเว่อร์วัง
ปัจจุบัน Symphony of the Seas เป็นเรือลำที่ 4 ในตระกูล Oasis Class และได้รับการขนานนามว่าเป็นเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2018 แต่งานนี้ยังไม่จบนะ! ในอนาคตจะมีเรือลำที่ 5 จากตระกูลเดียวกัน ที่สัญญาว่าจะใหญ่ยักษ์อลังการกว่าลำก่อนๆ อย่างแน่นอน โดยมีกำหนดการเปิดตัวในปี 2021 เรียกได้ว่าแค่ฟังก็อยากรีบไปล่องเรือสำราญกันซะแล้ว! ไม่นานเกินรอเราคงได้เห็นเรือสำราญลำใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอน!
2. ล่องเรือสำราญ Harmony of the Seas สายเรือ Royal Caribbean International
Harmony of the Seas เป็นเรือสำราญในตระกูล Oasis Class เช่นเดียวกับ Symphony of the Seas และเคยครองตำแหน่งเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2016 ด้วยขนาดมหึมา 226,963 ตัน และงบการก่อสร้างสูงถึง 47,250 ล้านบาท เรือสำราญลำนี้มีรูปแบบกิจกรรมและความบันเทิงคล้ายกับ Symphony of the Seas สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 6,687 คน โดยความยาวของเรือนี้คือ 1,188 ฟุต หรือ 361.8 เมตร ซึ่งยาวกว่าหอไอเฟลที่สูงเพียง 1,063 ฟุตเท่านั้น!
กิจกรรมไฮไลท์สุดหวาดเสียวที่ต้องลองคือ Ultimate Abyss สไลเดอร์ขนาดใหญ่ที่สูงถึง 10 ชั้น ให้คุณดิ่งลงมาด้วยความเร็ว 14.5 กม./ชม. สุดมันส์! นอกจากนี้ยังมี Zipline ที่ให้คุณล่องลอยกลางอากาศ ท้าทายความกล้าแบบสุดขีด ซึ่งจะทำให้ใจเต้นแรงและหวาดเสียวไปตามๆ กัน!
3. ล่องเรือสำราญ Allure of the Seas สายเรือ Royal Caribbean International
Allure of the Seas เป็นอีกหนึ่งเรือสำราญในตระกูล Oasis Class ซึ่งเคยเป็นเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อปี 2010 ด้วยขนาด 225,282 ตัน และใช้งบการก่อสร้างสูงถึง 42,000 ล้านบาท เรือสำราญลำนี้มีร้านอาหารมากกว่า 25 แห่ง, สระว่ายน้ำ 4 แห่ง, และอ่างน้ำวนถึง 10 แห่ง สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 6,687 คน และมีความยาวถึง 1,187 ฟุต อีกหนึ่งไฮไลท์คือโรงละครขนาดใหญ่ที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 1,380 ที่นั่ง โดยมีการแสดงระดับโลก เช่น ละครบอร์ดเวย์ชื่อดังอย่าง Chicago ที่เคยคว้ารางวัล Tony Award มาแล้ว การแสดงต่างๆ ในโรงละครจะทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจและเรียกเสียงฮือฮาได้อย่างแน่นอน!
4. ล่องเรือสำราญ Oasis of the Seas สายเรือ Royal Caribbean International
ยังไม่เบื่อใช่ไหมคะกับเรือสำราญที่คุณก็รู้ว่าคืออะไร! มาถึงลำดับที่ 4 กับ Oasis of The Seas ซึ่งเป็นเรือลำแรกในตระกูล Oasis Class จากสายเรือ Royal Caribbean เปิดตัวในปี 2009 ด้วยขนาด 225,282 ตัน และงบการก่อสร้างมหาศาลกว่า 49,000 ล้านบาท เรือลำนี้ถือเป็นผู้บุกเบิกแนวคิด “Seven Neighborhoods” ซึ่งแบ่งพื้นที่ออกเป็น 7 โซนเพื่อให้ความบันเทิงและความสนุกไร้ขีดจำกัด
เรือลำนี้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 6,780 คน และขึ้นชื่อว่ามีแท็งก์ที่ลึกที่สุดในบรรดาเรือสำราญ นอกจากนี้ยังมีการแสดงบรอดเวย์ระดับโลกอย่าง Hairspray ซึ่งเคยได้รับรางวัล Tony Award ให้ผู้โดยสารได้เพลิดเพลิน!
5. ล่องเรือสำราญ MSC Meraviglia สายเรือ MSC Cruises
MSC Meraviglia เป็นเรือลำแรกในตระกูล Project Vista ของสายเรือ MSC Cruises ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือสัญชาติยุโรป เรือมีขนาด 171,598 ตัน และใช้งบการก่อสร้างกว่า 33,250 ล้านบาท เรือสำราญนี้เหมาะสำหรับการเดินทางเป็นครอบครัว โดยเน้นเส้นทางในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนช่วงฤดูร้อน (กรกฎาคม-สิงหาคม) นอกจากนี้ ในปี 2019 ยังมีเส้นทางล่องเรือไปยังแคริบเบียน โดยออกจากท่าเรือ Miami อีกด้วย
ที่พิเศษสุดคือ MSC Meraviglia ได้ร่วมมือกับ Cirque du Soleil เพื่อนำการแสดงกายกรรมสุดอลังการมาจัดบนเรือ 12 ครั้งต่อสัปดาห์! ผู้โดยสารจะได้สัมผัสการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Cirque du Soleil ตลอดการเดินทาง บอกได้เลยว่าเรือลำนี้จัดเต็มทั้งกิจกรรมและโชว์แบบไม่ยั้ง! เรือสำราญที่หรูหราและจัดเต็มขนาดนี้ แค่คิดก็ฟินแล้วค่ะ!
6. ล่องเรือสำราญ Norwegian Bliss สายเรือ Norwegian Cruise Line
Norwegian Bliss เป็นเรือสำราญในตระกูล Breakaway-Plus และเป็นเรือลำใหม่ที่สุดและใหญ่ที่สุดของสายเรือ Norwegian Cruise Line เปิดตัวครั้งแรกในเดือนเมษายน 2018 ด้วยขนาด 168,028 ตัน และใช้งบก่อสร้างสูงถึง 32,200 ล้านบาท! เรือในตระกูลนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและสีสันที่โดดเด่นสะดุดตา เพราะภายนอกของเรือถูกเพ้นท์ลายสวยๆ ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล และในอนาคต จะมีเรือลำที่สี่ Norwegian Encore เข้าร่วมสร้างสีสันเพิ่มเติมในปี 2019
ไฮไลท์ของเรือ Norwegian Bliss คือ ลานโกคาร์ท 2 ชั้น ที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้าระหว่างชั้น 19 และ 20 ให้ผู้โดยสารได้สนุกสนานกับการแข่งรถโกคาร์ทที่ใหญ่ที่สุดในท้องทะเล สำหรับผู้ที่รักความเร็ว นี่เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด! แต่ก็อย่าขับกันแรงเกินไปนะคะ เดี๋ยวจะกลายเป็นรถดำน้ำแทน! (แซวเล่นค่า) นอกจากนี้ยังมี สวนน้ำสไลเดอร์ขนาดใหญ่ และกิจกรรม เกมยิงเลเซอร์ สำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายด้วย งานนี้บอกได้เลยว่าพร้อมลุยทุกกิจกรรมบนเรือลำนี้อย่างแน่นอน!
7. ล่องเรือสำราญ Quantum of the Seas สายเรือ Royal Caribbean International
Quantum of the Seas เป็นเรือสำราญในตระกูล Quantum Class ซึ่งอยู่ในสายเรือ Royal Caribbean เช่นเดียวกับ Anthem of the Seas และ Ovation of the Seas ทั้งหมดมีขนาด 167,666 ตัน และใช้งบการก่อสร้างสูงถึง 33,250 ล้านบาท เปิดตัวในปี 2014 และได้รับการยกย่องว่าเป็นเรือสำราญที่อัจฉริยะและไฮเทคที่สุดในเอเชีย เรือ Quantum of the Seas มอบประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกับเรือในตระกูล Oasis Class แต่มีขนาดเล็กกว่า
เรือลำนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมถึงร้านอาหารถึง 18 แห่ง และเครื่องเล่นไฮไลท์เช่น
- กระเช้าลอยฟ้า North Star: ที่ให้คุณได้ขึ้นไปชมวิวทะเลแบบ 360 องศา
- RipCord by iFly: เครื่องเล่นจำลองการโดดร่มในห้องแคปซูลใส ที่ลมตีพุงจนคุณรู้สึกเหมือนบินได้!
- Bionic Bar: บาร์ที่ให้บริการโดยหุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์สุดล้ำ ชงค็อกเทลให้คุณแบบอัตโนมัติ
เส้นทางเดินเรือหลักของ Quantum of the Seas อยู่ในเอเชีย โดยมักออกจากท่าเรือเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ไปยังญี่ปุ่น ใช้เวลา 4-5 วัน ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวจีน หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ล่องเรือสำราญเป็นครั้งแรก Quantum of the Seas เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะอยู่ใกล้บ้าน และใช้เวลาไม่นาน แถมราคายังไม่แพงมากอีกด้วย!
8. ล่องเรือสำราญ Anthem of the Seas สายเรือ Royal Caribbean International
Anthem of the Seas เป็นเรือสำราญในตระกูล Quantum Class ของสายเรือ Royal Caribbean มีขนาด 167,666 ตัน และใช้งบการก่อสร้าง 33,250 ล้านบาท เรือเปิดตัวครั้งแรกในเดือนเมษายนปี 2015 และมักจะล่องในน่านน้ำแอตแลนติก ทริปที่น่าสนใจสำหรับ Anthem of the Seas คือการล่องเรือ 8 คืน ซึ่งเริ่มต้นจากฝรั่งเศส ผ่านสเปน และสิ้นสุดที่เซาแธมป์ตัน นอกจากนี้ เรือยังเคยเดินทางไปยังท่าเรือในแคนาดาในปี 2016 โดยแวะที่ Halifax และ Nova Scotia ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่น่าตื่นเต้นและมีความหลากหลายให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและทิวทัศน์ที่สวยงาม เรือลำนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการล่องเรือในน่านน้ำแอตแลนติก!
9. ล่องเรือสำราญ Ovation of the Seas สายเรือ Royal Caribbean International
Ovation of the Seas เป็นเรือสำราญสุดไฮเทคในตระกูล Quantum Class ของสายเรือ Royal Caribbean เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 มีขนาด 167,666 ตัน และใช้งบการก่อสร้าง 35,500 ล้านบาท เรือลำนี้มีห้องพักที่สวยงาม ใหม่ และทันสมัย พร้อมด้วยร้านอาหารให้เลือกกว่า 18 ร้าน โดยเฉพาะร้าน Jamie’s Italia ที่ได้เชฟชื่อดังอย่าง Jamie Oliver มารังสรรค์เมนูอาหารอิตาเลียนแท้ๆ รับรองว่าจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในรายการมาสเตอร์เชฟ! การล่องเรือจึงเต็มไปด้วยความสนุกสนานและไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเลย
เส้นทางหลักของ Ovation of the Seas จะอยู่ที่เอเชีย โดยมักออกจากท่าเรือเทียนจิน (ปักกิ่ง) ไปยังญี่ปุ่นใช้เวลาประมาณ 4-5 วัน ในช่วงปีใหม่ เรือจะเดินทางไปออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ และในปีหน้า 2019 มีแผนที่จะเดินทางไปอลาสก้า ที่นั่นคุณจะได้พบกับธารน้ำแข็ง ปลาวาฬ และปูอลาสก้า เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นมาก!
10. ล่องเรือสำราญ Norwegian Joy สายเรือ Norwegian Cruise Line
Norwegian Joy เป็นเรือสำราญลำที่สองในตระกูล Breakaway-Plus Class ของสายเรือ Norwegian Cruise Line โดยมีความยาวถึง 1,094 ฟุต และออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งทำให้ภาษาหลักที่ใช้บนเรือเป็นภาษาจีนกลางแทนที่จะเป็นภาษาอังกฤษที่มักใช้ในเรือสำราญทั่วโลก การออกแบบเรือลำนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินชาวจีนชื่อดัง Tan Ping ที่สร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและสวยงาม เพื่อดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะ Norwegian Joy เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 และสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 3,883 คน เส้นทางล่องเรือที่ได้รับความนิยมที่สุดคือเส้นทางระหว่างจีนและออสเตรเลีย แม้เรือจะมีขนาดใหญ่ แต่ก็เป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างมาก!
ว่าแล้วก็.. อยากจะหายตัวแว้บบบ.. ไปอยู่เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก กันสักลำแล้วใช่ไหมค้า จูงมือไปด้วยกันเลยมั้ยหละคะ. 555
เรือสำราญในปัจจุบัน มีเยอะมากๆ หลายสายเรือมาก งั้นมาเริ่มแพลนกันสักลำตั้งแต่วันนี้ ก่อนไหมคะ.. คริคริ (ต้องไปกี่รอบถึงจะเก็บหมดนะ)
หากมีแพลนจะไปปีหน้า ควรวางแผน และจองกันตั้งแต่ปีนี้นะจ้ะ เพื่อที่จะได้มีโอกาสเลือกห้องพักแบบที่ชอบ ในทำเลที่ดี และในราคาที่ถูกมีส่วนลด Early Bird..
ใกล้ๆ จะราคาสูง และไม่ค่อยมีห้องให้เลือก รวมถึงค่าตั๋วเครื่องบินก็สูงขึ้น และคิวการยื่นวีซ่าอาจจะนาน หรือยื่นหลายสถานทูต ยื่นไม่ทันด้วยจ้า ฉะนั้นวางแผนด้วยกันไว้ล่วงหน้าดีกว่าค่า
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพบางส่วน จาก ‘หญิงปุ๊ก’ เจ้าของเพจ ‘หญิงปุ๊กพาเที่ยว’ และขออนุญาตฝากติดตามผลงาน สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวรอบโลกได้ที่ www.yingpook.com
P:2018-06-08
Update: 2020-09-22