ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวในฝัน

Search for:

Search
10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในเซี่ยงไฮ้ Shanghai จีน

10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในเซี่ยงไฮ้ Shanghai จีน

หากคุณกำลังวางแผนเที่ยวจีนเป็นครั้งแรก ขอแนะนำให้เริ่มต้นที่เซี่ยงไฮ้ เพราะเป็นหนึ่งในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในประเทศ การเดินทางสะดวกและมีความปลอดภัยสูง ด้วยระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมทั่วทั้งเมือง นอกจากนี้ เซี่ยงไฮ้ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ถนนช้อปปิ้งชื่อดัง วัดโบราณ ธรรมชาติที่สวยงาม และล่าสุดคือสวนสนุกระดับโลกอย่างเซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย

 

เที่ยวเดอะบันด์ (The Bund)

เดอะบันด์ หรือหาดไว่ทาน (Waitan) สถานที่นี้ถือเป็นไฮไลท์สำคัญในการมาเยือนเซี่ยงไฮ้อย่างแท้จริง ถึงจะมีชื่อว่า “หาด” แต่ที่นี่ไม่ได้ติดชายทะเลนะคะ เป็นทางเดินเลียบแม่น้ำที่มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ความยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่งดงาม และอาคารบ้านเรือนเก่าแก่กว่า 100 ปี ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม จนได้รับฉายาว่า “ปารีสแห่งตะวันออก” เพราะไม่ว่ามุมไหนก็สวยงามจนต้องกดชัตเตอร์แบบไม่หยุด!

นอกจากจะเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญแล้ว ที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของเซี่ยงไฮ้อีกด้วย เป็นที่ตั้งของสถานทูตต่างประเทศ ธนาคาร โรงแรม สำนักพิมพ์ และบริษัทใหญ่ๆ รวมถึงร้านอาหารหรูหราและร้านค้าแบรนด์เนมมากมาย ที่นี่ยังถูกใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง “เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้” จึงได้รับการขนานนามว่า “หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้” ไปด้วย

ในช่วงค่ำ อาคารรอบๆ จะเปิดไฟสว่างไสว สะท้อนกับแม่น้ำที่ไหลผ่าน เกิดเป็นบรรยากาศที่สวยงามสุดๆ จนแทบไม่อยากจะละสายตา ถือเป็นจุดชมวิวที่งดงามที่สุดของเซี่ยงไฮ้ ถ้าใครไม่ได้มาเยือนที่นี่บอกเลยว่าพลาดมาก!

 

เที่ยวหอไข่มุก (The Oriental Pearl Tower)

หอไข่มุก หรือที่เรียกเต็มๆ ว่า “หอไข่มุกตะวันออก” เป็นหนึ่งในหอส่งสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงเกือบ 428 เมตร ตั้งอยู่ในย่านผู่ตง (Pudong) ริมแม่น้ำหวงผู่ (Huangpu River) และสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1994 ปัจจุบันหอไข่มุกถือเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองเซี่ยงไฮ้ โดดเด่นด้วยดีไซน์เก๋ไก๋แปลกตา มีลักษณะเป็นเหมือนไข่มุก 3 เม็ดที่เรียงซ้อนกันขึ้นไป สะท้อนความงามที่ผสมผสานระหว่างความล้ำสมัยและกลิ่นอายของความเป็นจีนโบราณได้อย่างลงตัว

ภายในหอไข่มุกมีกิจกรรมและสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของเมืองเซี่ยงไฮ้ เมืองจำลองอนาคต เมืองวิทยาศาสตร์แฟนตาซี สถานีวิทยุและโทรทัศน์ โซนเกมส์ ร้านขายของที่ระลึก โรงแรม รวมถึงร้านอาหารสุดหรูที่หมุนรอบตัวเองได้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการทานอาหารพร้อมชมวิวเมืองเซี่ยงไฮ้แบบ 360 องศา รับรองว่าฟินสุดๆ!

บนชั้นสูงสุดของหอไข่มุกยังมีระเบียงชมวิวที่ให้คุณสัมผัสความสวยงามของเซี่ยงไฮ้แบบ 360 องศา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น ที่นี่มีจุดเด่นอยู่ที่ “ระเบียงพื้นกระจกใส” ซึ่งเมื่อคุณก้าวไปยืน ขาจะรู้สึกสั่นนิดๆ เพราะสามารถมองเห็นวิวด้านล่างได้อย่างชัดเจน ราวกับว่าคุณกำลังลอยอยู่เหนือเมือง มอบประสบการณ์ที่ทั้งเสียวและน่าตื่นเต้นแบบสุดๆ!

ในช่วงเวลากลางคืน หอไข่มุกจะสว่างไสวด้วยแสงไฟประดับที่เปลี่ยนสีสวยงามตลอดเวลา เป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมาก จากหอไข่มุก คุณยังสามารถมองเห็นวิวของหาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมุมที่สวยงามสุดประทับใจ นอกจากนี้ การล่องเรือในแม่น้ำหวงผู่เพื่อชมทิวทัศน์ของหอไข่มุกและบรรยากาศรอบๆ แม่น้ำก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อย ให้คุณได้ดื่มด่ำกับความงดงามของเมืองในยามค่ำคืน

 

เที่ยวตึก Shanghai World Financial Center

ตึก Shanghai World Financial Center (SWFC) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมในการชมวิวเมืองเซี่ยงไฮ้ ด้วยความสูงเกือบ 500 เมตร ซึ่งทำให้ติดอันดับตึกที่สูงที่สุดในโลกเป็นอันดับสาม! ตึกนี้สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 2008 โดยมีจุดเด่นที่ยอดตึกเป็นช่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายที่เปิดขวด ทำให้คนทั่วไปมักเรียกกันว่า “ตึกเปิดขวด” นั่นเอง นอกจากนี้ ตึก SWFC ยังถูกออกแบบมาอย่างชาญฉลาดเพื่อต้านทานแผ่นดินไหว และลดแรงปะทะของลม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวอาคาร ระบบป้องกันไฟและรักษาความปลอดภัยก็มีมาตรฐานสูง ทำให้คุณสามารถเที่ยวชมได้อย่างมั่นใจ

ภายในตึกมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น โรงแรมหรู สำนักงาน ห้องประชุม ห้างสรรพสินค้า ร้านขายของที่ระลึก ภัตตาคาร และบาร์เล็กๆ ที่คุณสามารถสั่งเครื่องดื่มพร้อมนั่งชมวิวไปด้วย โดยตึกนี้มีทั้งหมด 101 ชั้น ซึ่งเปิดให้เข้าชมวิวที่ชั้น 94, 97 และชั้น 100 แนะนำให้มาในช่วงเย็น เพราะคุณจะได้ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม และต่อเนื่องด้วยแสงสีจากไฟตึกต่างๆ ในเมือง พร้อมวิวแม่น้ำหวงผู่ที่ทอดยาวสุดสายตา นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นหอไข่มุก ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเซี่ยงไฮ้ได้อีกด้วย!

 

เที่ยวสวนอี้หยวน (Yuyuan Garden)

สวนอี้หยวน (Yuyuan Garden) หรือ Yu Garden เป็นสวนประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ถึง 20,000 ตารางเมตร และมีอายุมากกว่า 400 ปี สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเศรษฐีผู้หนึ่งเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนให้กับพ่อและแม่ของเขา โดยใช้เวลาสร้างนานถึง 18 ปี

สวนอี้หยวนแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ สวนชั้นนอกและสวนชั้นใน ในส่วนของสวนชั้นนอก เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีความคึกคักและมีเสน่ห์เฉพาะตัว ตรอกซอกซอยเต็มไปด้วยร้านค้าที่ตกแต่งในสไตล์เก๋งจีน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขนม โรงน้ำชา และร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นงานฝีมือของชาวจีน นอกจากนี้ยังมีร้านขายเครื่องสำอาง เสื้อผ้า และแบรนด์ดังอย่าง H&M และ Starbucks ที่ผสมผสานอยู่กับบรรยากาศจีนโบราณ ทำให้ทั้งพื้นที่ดูกลมกลืนและสวยงามอย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งและต้องการสัมผัสบรรยากาศจีนคลาสสิกไปพร้อมๆ กัน

ส่วนของสวนชั้นในในสวนอี้หยวน (Yu Garden) ล้อมรอบด้วยกำแพงมังกรที่โดดเด่น พอเดินผ่านประตูเข้ามาก็จะรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาในโลกอีกใบ ที่แตกต่างจากความคึกคักของสวนชั้นนอกอย่างสิ้นเชิง ด้านนอกยังคงเต็มไปด้วยผู้คนและเสียงดัง แต่ภายในสวนชั้นในกลับเงียบสงบ บรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้อายุนับร้อยปี มีสะพานไม้ สระน้ำ สวนไผ่ และบ่อปลาคาร์พที่เพิ่มความผ่อนคลาย อีกทั้งยังมีสิ่งปลูกสร้างสไตล์จีนโบราณที่งดงาม เช่น บ้านเรือนแบบเก๋งจีน และศาลาสมัยราชวงศ์หมิงที่แสดงถึงงานแกะสลักที่ประณีตงดงาม บรรยากาศภายในสวนมีจุดพักผ่อนให้ผู้เยี่ยมชมได้นั่งพักเป็นระยะๆ ระหว่างเดินชม

ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและน่าพักผ่อนนี้เอง สวนแห่งนี้จึงถูกตั้งชื่อว่า “Yu Yuan” ซึ่งหมายถึง “สวนแห่งความสำราญใจ” ผู้ที่มาเยือนสวนอี้หยวนจึงได้รับความสุขใจและความอิ่มเอมกลับไปอย่างแน่นอนค่ะ!

 

เมืองน้ำโบราณจูเจียเจี่ยว (Zhujiajiao)

สถานที่นี้ได้รับฉายาว่า “เวนิสแห่งตะวันออก” เพราะเป็นชุมชนโบราณอายุกว่า 1,700 ปี ตั้งอยู่ริมน้ำและมีคลองเล็กๆ ไหลผ่านเมือง ซึ่งใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมา แม้ในปัจจุบันจะมีความเจริญรอบด้าน แต่ผู้คนในชุมชนยังคงรักษาวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี สิ่งก่อสร้างภายในเมืองก็ยังคงความดั้งเดิม โดยเฉพาะบ้านเรือนเก่าแก่และสะพานหินชื่อดังอย่าง “Fang Sheng Bridge” ที่สร้างขึ้นในช่วงราชวงศ์หมิงและชิง ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองน้ำโบราณแห่งนี้

บรรยากาศรอบๆ คลองมีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย ตั้งเรียงรายทั้งสองฝั่งคลองและตามตรอกซอกซอยต่างๆ ร้านค้าเหล่านี้ตกแต่งได้อย่างน่ารัก สินค้าที่วางจำหน่ายก็มีหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า ของที่ระลึกแบบจีน งานแฮนด์เมด ภาพวาด เครื่องนุ่งห่มไหมจีน ดาบโบราณ เครื่องดนตรีโบราณ ร้านกาแฟ และร้านอาหารริมน้ำ ซึ่งของกินและขนมที่นี่มีให้เลือกเยอะมาก เมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้คือ “ขาหมู” ซึ่งหาซื้อได้ตลอดทาง เมืองนี้ไม่ใหญ่มาก ทำให้คุณสามารถเดินชมบรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบได้อย่างเพลิดเพลิน

และหากมาถึงเมืองน้ำโบราณแล้ว ไม่ได้นั่งเรือเที่ยวก็เหมือนมาไม่ถึง! นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมบรรยากาศรอบๆ เมืองได้ เพลิดเพลินไปกับวิวสวยๆ และอากาศที่บริสุทธิ์ การล่องเรือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการซึมซับความงามของเมืองน้ำจากสองฝั่งคลอง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที แต่ความประทับใจคงอยู่ยาวนานแน่นอน เหมาะกับการถ่ายรูปสุดๆ!

 

ถนนหนานจิง (Nanjing Road)

ถนนหนานจิง (Nanjing Road) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “นานกิง” เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าร้อยปี ครอบคลุมพื้นที่ใจกลางเมืองถึง 5 กิโลเมตร ถ้าคุณเป็นนักช้อปเตรียมตัวให้ดี เพราะที่นี่ถือเป็นแดนสวรรค์สำหรับคุณเลยทีเดียว~ >,<

ในอดีต ถนนหนานจิงเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ที่เคยใช้เป็นที่ตั้งของ 10 ราชวงศ์ ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยโบราณสถานที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต นอกจากนี้ยังเคยถูกอังกฤษใช้เป็นท่าเรือนานาชาติ ทำให้เป็นจุดแรกในการรองรับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศอีกด้วย ปัจจุบัน ถนนหนานจิงได้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่ผสมผสานระหว่างศูนย์การค้าอันหรูหราและร้านค้าริมถนนแบบดั้งเดิมได้อย่างลงตัว โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ ถนนหนานจิงตะวันออกและหนานจิงตะวันตก

ในฝั่งตะวันออกจะมีสวนขนาดใหญ่สำหรับผู้คนให้มาเดินเล่นและพักผ่อน มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น หอศิลปะและพิพิธภัณฑ์ ในช่วงเย็น ร้านค้าและบาร์ต่างๆ จะเริ่มคึกคัก มีนักดนตรีริมถนน และบรรยากาศเต็มไปด้วยแสงสีเสียง เหมาะสำหรับการเดินเล่นหรือนั่งรถรางเพื่อชมบรรยากาศรอบๆ อย่างยิ่ง!

ทางฝั่งตะวันตกของถนนหนานจิงเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่ง ซึ่งสลับกับร้านค้าแบบจีนดั้งเดิมตลอดสองข้างทาง ทำให้ที่นี่กลายเป็นย่านที่รวบรวมสินค้าแบรนด์เนมจากทั่วโลก เช่น เสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ รวมถึงสินค้างานฝีมือพื้นบ้านของจีนอย่างผ้าไหม เครื่องปั้นดินเผา หยก และของกินที่หลากหลาย ทั้งขนม ของหวาน และร้านอาหารชื่อดังมากมาย

ในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น ตรุษจีน ปีใหม่ และคริสต์มาส ผู้คนจะมารวมตัวกันที่ถนนหนานจิงเพื่อเฉลิมฉลองความสุขอย่างคึกคัก เรียกได้ว่าย่านนี้เป็น “ย่านแห่งความสุข” ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสันจริงๆ ค่ะ!

 

เที่ยว Shanghai Circus World

มาดูการแสดงกายกรรมสุดว้าวที่ Shanghai Circus World กันค่ะ ซึ่งกายกรรมเซี่ยงไฮ้นี้มีชื่อเสียงระดับโลก! การแสดงนี้ผสมผสานเอกลักษณ์ของตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เอกลักษณ์แบบตะวันออกนั้นคือการแสดงศิลปะกายกรรมแบบจีนดั้งเดิมที่มีประวัติยาวนานนับพันปี ในขณะที่เอกลักษณ์ฝั่งตะวันตกเน้นไปที่การสร้างเรื่องราวและฉากที่ยิ่งใหญ่ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย พร้อมทั้งแสงสีเสียงและเครื่องแต่งกายแฟนตาซีที่ล้ำสมัย ทำให้การแสดงมีรูปแบบสากล แต่ยังคงกลิ่นอายของอารยธรรมจีนได้อย่างลงตัว

ในระหว่างการแสดง เราจะได้ชมโชว์สุดตื่นเต้นที่เล่าเรื่องราวผ่านหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกายกรรมจีน, กายกรรมสากล, การแสดงดนตรี, การเต้นร่วมสมัย, ร้องเพลง, การแข่งขันมายากลระดับนานาชาติ, มอเตอร์ไซค์ผาดโผนไต่ลูกกรงเหล็ก, โชว์ม่านน้ำ, และการแสดงกายกรรมห่วงวงล้อกลางอากาศ รวมถึงการแสดงอื่นๆ อีกมากมาย โดยแต่ละโชว์ดูไหลลื่นและต่อเนื่องกันอย่างดี มีทั้งความตื่นเต้น สนุกสนาน และซาบซึ้งประทับใจ เรียกได้ว่าเพลินจนลืมเวลาไปเลยทีเดียวค่ะ!

 

เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ (Shanghai Disneyland)

สวนสนุกดิสนีย์แลนด์แห่งที่ 6 ของโลกเปิดให้บริการในเซี่ยงไฮ้และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากดิสนีย์แลนด์ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา มีพื้นที่กว่า 963 เอเคอร์ หรือราว 3,852,000 ตารางเมตร ซึ่งใหญ่กว่าฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ถึง 3 เท่า เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2016

สวนสนุกแบ่งออกเป็น 6 โซน ได้แก่

Mickey Avenue – แหล่งช้อปปิ้งสินค้าสุดน่ารัก
Garden of Imagination – สวนสวยในจินตนาการ
Fantasyland – ดินแดนแห่งเทพนิยาย
Treasure Cove – ถ้ำแห่งขุมทรัพย์
Adventure Isle – ตะลุยเกาะผจญภัย
Tomorrowland – ดินแดนแห่งอนาคต
เครื่องเล่นหลายตัวที่นี่เป็นรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ทั้งยังมีความไฮเทค แต่จะออกแนวซอฟต์ ไม่หวือหวาหวาดเสียวมากนัก ทำให้คนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุ สามารถเล่นได้อย่างสบายใจ โดยเน้นการเล่าเรื่องผ่านเอฟเฟกต์ กราฟิก แสงสีเสียง และเพิ่มความสมจริงให้มากที่สุด สิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในสวนสนุกก็สวยงามและน่าถ่ายรูปอย่างมาก

ความคลาสสิกและตระการตาของดิสนีย์เมื่อมาพบกับวัฒนธรรมจีน ได้สร้างบรรยากาศที่ลงตัวอย่างดีงามสุดๆ เลยค่ะ!

รูปภาพจาก https://blog.disneygeek.com,  https://www.kkday.com/th/product/7076

ภายในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ยังมีแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร โรงละครบรอดเวย์ และสิ่งบันเทิงอีกมากมาย รวมถึงร้าน LEGO ซึ่งเป็นสาขาใหญ่ที่สุดในโลกที่เปิดให้บริการที่นี่ด้วยค่ะ สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าพัก ยังมีโรงแรมให้บริการสองแห่ง คือ Shanghai Disneyland Hotel และ Toy Story Hotel ที่เป็นแห่งเดียวในโลก น่ารักและน่าเข้าพักสุดๆ และข่าวดีในปีนี้! จะมีการเปิดโซนใหม่ คือ Toy Story Land เตรียมตัวไปฟินกันได้เร็วๆ นี้ค่ะ >,<

รูปภาพจาก https://tdrexplorer.com/shanghai-disneyland-planning-guide

ห้ามพลาดการแสดงและการเดินพาเหรดของเหล่าตัวการ์ตูนที่น่ารัก รวมถึงการชมพลุดอกไม้ไฟสุดอลังการในยามค่ำคืน ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณปราสาทของดิสนีย์แลนด์นะคะ! สวนสนุกเปิดบริการทุกวัน โดยเวลาทำการคือ

  • วันจันทร์ถึงวันพฤหัส เวลา 09:00 น. – 20:00 น.
  • วันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ เวลา 08:00 น. – 20:30 น.
  • เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของสวนสนุกค่ะ!

https://www.shanghaidisneyresort.com/en/

 

วัดพระหยก (The Jade Buddha Temple)

วัดพระหยก หรือ วัดพระหยกขาว เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธที่สำคัญอันดับหนึ่งในเซี่ยงไฮ้และเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมากมายเข้ามากราบไหว้ขอพรค่ะ วัดนี้ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 เพื่อเก็บรักษาโบราณวัตถุล้ำค่าในสมัยราชวงศ์ต่างๆ รวมถึงพระพุทธรูป ภาพวาดโบราณ และคัมภีร์พระไตรปิฎก

พระพุทธรูปหยก 2 องค์ที่นี่มีความโดดเด่นอย่างมาก: องค์แรก เป็นพระพุทธรูปปางนั่ง สูง 190 เซนติเมตร ประดับด้วยเพชรพลอยที่สวยงาม องค์ที่สอง เป็นปางนอน ยาว 96 เซนติเมตร ทั้งสององค์ถูกสลักจากหยกสีขาวนวลที่มีประกายระยิบระยับเมื่อสะท้อนกับแสงไฟ หลังจากที่วัดถูกทำลายลงในสมัยปฏิวัติ พระพุทธรูปหยกถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี และมีการสร้างวัดขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1928 บรรยากาศภายในวัดร่มรื่นและเงียบสงบ อบอวลไปด้วยกลิ่นธูปหอม และเสียงสวดมนต์ของพระสงฆ์

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกที่จำหน่ายเครื่องรางและของที่ระลึกต่างๆ ให้เลือกซื้อค่ะ สำหรับใครที่มีโอกาสไปเยือนเซี่ยงไฮ้ อย่าลืมแวะมาที่วัดพระหยกแห่งนี้เพื่อสักการะและขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตกันนะคะ!

 

วัดหลงหัว (Longhua Temple)

วัดพระหยกถือเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 1,700 ปี โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 242 ในสมัยสามก๊ก วัดนี้ผ่านการทำลายหลายครั้งจากสงคราม แต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในสมัยของพระจักรพรรดิถงจื้อและพระจักรพรรดิกวังซฺวี่ แห่งราชวงศ์ชิง ปัจจุบันวัดพระหยกถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของเซี่ยงไฮ้และยังเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีทางศาสนาพุทธอยู่จนถึงทุกวันนี้

ภายในวัดมีวิหารทั้งหมด 7 หลัง โดยมีพระพุทธรูปสีทองมากถึง 500 องค์ที่สวยงามอลังการ แต่ละวิหารจะมีพระพุทธรูปและรูปปั้นเทพผู้พิทักษ์ให้ผู้คนได้เข้ามากราบไหว้ขอพร เช่น

  • วิหารใหญ่ มีพระศรีศากยมุนี
  • วิหารเจ้าแม่กวนอิม ประกอบด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมพันมือพันตา

การเข้ามาเยี่ยมชมวัดนี้ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสบรรยากาศที่สงบและร่มรื่น ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมพุทธศาสนาอีกด้วยค่ะ

ตรงข้ามวัดมีเจดีย์หลงหัว (Longhua Pagoda) ตั้งตระหง่านอยู่ เป็นเจดีย์แปดเหลี่ยมโบราณ 7 ชั้น สูง 40 เมตร ทำจากอิฐและไม้ มีระเบียงและราวบันไดล้อมรอบ เคยได้ชื่อว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในเซี่ยงไฮ้ด้วยนะคะ

นอกจากนี้ยังมีหอระฆังสูง 2 เมตร หนัก 6,500 กิโลกรัม เมื่อตีเสียงจะดังกังวานไปไกลถึง 5 กิโลเมตรเลยทีเดียวค่า และในวันปีใหม่ของทุกๆ ปี จะมีพิธี Evening Bell Striking เป็นพิธีลั่นระฆังส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อีกด้วย

 รูปภาพจาก https://www.shine.cn/news/metro/1801018495/

 

นั่งรถไฟแม่เหล็กความเร็วสูง (Shanghai Maglev Train)

รถไฟแม็กเลฟ (Maglev) ที่เซี่ยงไฮ้เป็นอีกหนึ่งความน่าตื่นเต้นที่ผู้มาเยือนต้องลองสัมผัส! ด้วยความสามารถในการทำความเร็วสูงสุดถึง 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในโลกสำหรับการขนส่งสาธารณะ รถไฟนี้ใช้พลังงานจากแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้การเดินทางมีความรวดเร็วและราบรื่นมากขึ้น

การเดินทางด้วยรถไฟแม็กเลฟจากตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ไปสนามบินผู่ตง เป็นระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียงแค่ 7 นาทีเท่านั้น นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทาง นอกจากนี้ ยังมีแผนในการขยายเส้นทางรถไฟแม็กเลฟให้ครอบคลุมทั่วประเทศจีนและภูมิภาคอาเซียนในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางในภูมิภาคนี้สะดวกและรวดเร็วขึ้นอีกมาก!

 

รวบรวมสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวรอบโลก

เที่ยวนอก